วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

อาร์เซ่นอลตำนานแห่งบอลอังกฤษ

ตำนานปืนใหญ่อาร์เซ่นอลนับได้ว่าเป็นทีมที่เก่งที่สุดในฟุตบอลของอังกฤษและมีนักเตะที่โหดเมากเช่น
Olivier giroud,Danny welbeck,Ozil,Alexisและคนที่ทีมของเรานั้นขาดไม่ได้คือ Peter cech เค้าเป็นโกลที่เก่งมากที่สุดในอังกฤษ
   ประวัติของสโมสรคือ
สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลเริ่มต้นขึ้น เมื่อกลุ่มคนงานของโรงงานผลิตอาวุธรอยัลอาร์เซนอลในแขวงวูลิช กรุงลอนดอน ก่อตั้งทีมฟุตบอลของตนเองขึ้นมาเมื่อปลายปี ค.ศ. 1886 ในชื่อ ไดอัล สแควร์ การแข่งขันแรกของทีมคือเกมที่สามารถเก็บชัยชนะเหนือทีมอีสเทิร์น วันเดอเรอร์ส 6-0 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1886 หลังจากนั้นไม่นานก็เปลี่ยนชื่อเป็น รอยัลอาร์เซนอล และยังคงแข่งขันในเกมอุ่นเครื่องและรายการท้องถิ่นต่อไป จากนั้นได้ก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพแล้วหันมาใช้ชื่อ วูลิชอาร์เซนอลในปี 1891 สโมสรแห่งนี้ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกเป็นครั้งแรกในปี 1893 ในดิวิชั่น 2 จากนั้นในปี 1904 ก็ได้ก้าวขึ้นมาอยู่ดิวิชั่น 1 เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ในทางภูมิศาสตร์นั้นจะเห็นว่าสโมสรแห่งนี้ตั้งอยู่โดดเดี่ยวเกินไป ส่งผลกระทบให้จำนวนผู้ชมมีน้อยกว่าสโมสรอื่นจนกระทั่งทีมต้องประสบกับปัญหาทางการเงินอย่างหนักจนนำไปสู่การยุบทีมในปี 1910 เมื่อเฮนรี นอร์ริสได้เข้ามาเทคโอเวอร์[6] นอร์ริสพยายามมองหาแนวทางที่จะย้ายที่ตั้งของสโมสรไปอยู่ที่อื่นจนกระทั่งในปี 1913 หลังจากที่ตกชั้นดิวิชั่น 1 มาอยู่ดิวิชั่น 2 เหมือนเดิมนั้น อาร์เซนอลก็ได้ย้ายไปอยู่ที่อาร์เซนอลสเตเดียมในย่านไฮบิวรี่ บริเวณลอนดอนเหนือ ในปีต่อมา สโมสรได้ตัดสินใจตัดคำว่า "วูลิช" ออกจากชื่อสโมสรจนเหลือเพียง อาร์เซนอล เท่าที่เห็นในปัจจุบัน[7] หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ลีกดิวิชั่น 1 ก็เพิ่มจำนวนทีมเป็น 22 ทีม อาร์เซนอลได้อันดับ 5 ของดิวิชั่น 2 ในปี 1919 แต่ถึงกระนั้นก็ได้รับเลือกให้กลับขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 อีกครั้งหนึ่ง[8] และอาร์เซนอลก็ไม่เคยถูกลดชั้นหรือตกชั้นเลยนับตั้งแต่นั้นมา

ปาทริค วิเอร่า กัปตันทีมอาร์เซนอลชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2003-04

นักเตะอาร์เซนอลและแฟนบอลร่วมกันฉลองแชมป์ลีกเมื่อปี ค.ศ. 2004 บนขบวนรถบัส
ในปี 1925 อาร์เซนอลได้ว่าจ้างให้เฮอร์เบิร์ต แชปแมนเป็นผู้จัดการทีม แชปแมนเคยพาฮัดเดอร์สฟิลด์ทาวน์คว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 2 สมัยคือฤดูกาล 1923-24 และ 1924-25 ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมอาร์เซนอลนี้ และแชปแมนคือคนแรกที่พาอาร์เซนอลก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความสำเร็จยุคแรก เขาจัดการเปลี่ยนระบบการซ้อมและแทคติคใหม่ทั้งหมดพร้อมทั้งซื้อนักเตะระดับแนวหน้ามาร่วมทีมไม่ว่าจะเป็นอเล็กซ์ เจมส์และคลิฟฟ์ บานติน ทำให้อาร์เซนอลก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษได้ในช่วงทศวรรษที่ 1930 อาร์เซนอลคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆได้เป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของแชปแมน โดยสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้ฤดูกาล 1929-30 และแชมป์ลีก 2 สมัยคือฤดูกาล 1930-31 และ 1932-33 นอกจากนั้น แชปแมนยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟใต้ตินที่อยู่ในย่านนั้นคือ Gillespie Road เป็นสถานีรถไฟใต้ดิน "อาร์เซนอล" อันเป็นสถานีรถไฟใต้ดินเพียงแห่งเดียวที่ตั้งชื่อตามสโมสรฟุตบอลโดยเฉพาะ[9]
น่าเสียดายที่แชปแมนเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยโรคปอดบวมเมื่อต้นปี 1934 แต่หลังจากนั้น โจ ชอว์ และ จอร์จ อัลลิสัน ที่เข้ามารับตำแหน่งก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน พวกเขาพาอาร์เซนอลคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้อีก 3 สมัย (ฤดูกาล 1933-34, 1934-35 และ 1937-38) และเอฟเอคัพ 1 สมัย (1935-36) อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลก็เริ่มถดถอยลงเรื่อยๆในช่วงปลายทศวรรษเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 การแข่งขันฟุตบอลอาชีพทุกรายการในอังกฤษต้องยุติลง
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง ทอม วิทเทคเกอร์ ผู้สืบทอดตำแหน่งของอัลลิสันได้เข้ามาบริหารทีม อาร์เซนอลจึงกลับมาประสบความสำเร็จได้อีก 2 ครั้งคือฤดูกาล 1947-48 และ 1952-53 ที่ได้แชมป์ลีก และ 1949-50 ที่ได้แชมป์เอฟเอคัพ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น โชคก็เหมือนจะไม่เข้าข้างอาร์เซนอลเท่าไรนัก สโมสรไม่สามารถดึงดูดความสนใจของนักเตะชุดเดียวกับที่เคยอยู่ในทีมช่วงทศวรรษ 1930 ให้กลับเข้าสู่ทีมได้ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 และ 1960 นั้น อาร์เซนอลกลายเป็นทีมระดับธรรมดาๆที่ไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย แม้ แต่บิลลี ไรท์ อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษที่ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีมนั้นก็ไม่สามารถนำความสำเร็จมาสู่สโมสรได้เลยในช่วงปี 1962-1966 ที่เข้ามาคุมทีม
อาร์เซนอลเริ่มกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งหนึ่งหลังจากได้ว่าจ้างให้เบอร์ตี้ มี นักกายภาพบำบัดให้มารับตำแหน่งผู้จัดการทีมในปี 1966 แบบไม่มีใครคาดคิด อาร์เซนอลสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศลีกคัพได้ 2 สมัยแต่ก็พลาดแชมป์ทั้งสองครั้ง แต่ก็ยังสามารถคว้าแชมป์อินเตอร์ซิตี้แฟร์สคัพ ฤดูกาล 1969-70 ซึ่งเป็นถ้วยยุโรปใบแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ตามมาด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์เป็นครั้งแรก นั่นคือแชมป์ลีกและเอฟเอคัพในฤดูกาล 1970-71 แต่ในทศวรรษต่อมานั้น อาร์เซนอลทำได้แค่เพียงการเข้าไปใกล้ตำแหน่งแชมป์มากที่สุดแต่ก็แทบจะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลย โดยได้รองแชมป์ลีกในฤดูกาล 1972-73 รองแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาล 1971-72, 1977-78 และ 1979–80 และยังพ่ายแพ้ในเกมยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพรอบชิงชนะเลิศด้วยการดวลจุดโทษอีกด้วย สโมสรประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียวในช่วงนี้ก็คือการคว้าแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาล 1978-79 ได้ด้วยการเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปได้ 3-2 ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญกันมากในเรื่องของความคลาสสิกของเกมนี้และในฤดูกาลนี้อาร์เซ่นอลได้ชนะทีมใหญ่ไปหลายที่เช่นเอาชนะแมนยูไป 3-0 ชนะแมนซิไป2-1 เสมอลิเวอร์ไป0-0 ชนะเลสเตอร์ไป 5-2 และชนะ บาเยิร์นไป 2-0